เติบโตอย่างมั่นคง
ถึงวันนี้เดือนพฤศจิกายน 2554 ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังรายงานข่าวน้ำท่วมใหญ่ที่กรุงเทพ โปรซอฟท์เพิ่งประกาศว่าบริษัทมีผลประกอบการณ์ที่ดีที่สุดตั้งแต่เปิดบริษัทมาเกือบ 16 ปี มียอดขายประจำปีกว่า 70 ล้านบาท ยอดขายที่เติบโตมาจากที่เราได้สร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ที่ดีมีคุณภาพและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา โปรซอฟท์ยังไม่ได้โฟกัสต่องานขายมากนักเพราะเราได้ทุ่มเทมุ่งมั่นอยู่แต่กับการวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์เท่านั้น เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าหากเราโฟกัสการตลาดและการขายมากกว่าที่เป็นอยู่โปรซอฟท์จะต้องมียอดขายอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทได้ภายในปี 2555 ได้อย่างแน่นอน
แม้ตัวเลขเหล่านี้เป็นวิธีหนึ่งในการวัดความสำเร็จของบริษัท แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้โปรซอฟท์ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง อย่างน้อยก็ไม่ใช่นิยามความสำเร็จของผม
ในฐานะผู้นำโปรซอฟท์ สิ่งที่ผมแสวงหาไม่ใช่แค่ชัยชนะหรือการหาเงินเท่านั้น แต่ผมยังมีภารกิจที่สำคัญอย่างมากคือการสร้างบริษัทที่ยิ่งใหญ่และยืนหยัดอย่างยั่งยืน การตอบแทนอย่างคุ้มค่า ต่อลูกค้า ต่อพนักงานต่อผู้ถือหุ้นและต่อสังคมโดยรวมด้วย
ปี 2554 โปรซอฟท์เพิ่มทีม Research & Develope อีก 70 คนรวมปัจจุบันทั้งสิ้น 186 คนและจะเพิ่มอีกหลายร้อยคนในอีกสองสามปีข้างหน้าเพื่อเดินตามฝันในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดีมีคุณภาพออกสู่ตลาดอีกมากมาย ผมต้องการยกระดับคุณภาพซอฟต์แวร์ของคนไทยซอฟต์แวร์ของโปรซอฟท์ต้องเป็นWeb Applicationเพื่อนำซอฟต์แวร์ของคนไทยส่งออกจำหน่ายทั่วโลก ด้วยความเชื่อมั่นว่าคนไทยทำได้แน่นอน เพราะปัจจุบันโปรซอฟท์เริ่มพัฒนาซอฟต์แวร์ให้บริษัทในอเมริกาได้นำไปใช้งานแล้ว และก็เชื่อมั่นได้ว่าโปรซอฟท์จะเติบโตขึ้นไม่ใช่แค่ยอดขายเท่านั้น ผมมุ่งมั่นจะสร้างบริษัทอีกรูปแบบหนึ่ง โดยให้คำมั่นว่าจะสร้างคุณค่าให้กับผลงานที่พัฒนาขึ้นมา เกิดการจ้างงานจำนวนหลายพันตำแหน่งที่เชียงใหม่ สร้างให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์อย่างเป็นระบบ ก้าวเข้าสู่ "ธนาคารซอฟท์แวร์ร่วมแรงและแบ่งปัน"
บทความโดย : คุณวิโรจน์ เย็นสวัสดิ์ | Facebook