นำโปรซอฟท์เข้าสู่ "ธนาคารซอฟท์แวร์ร่วมแรงและแบ่งปัน"

นำโปรซอฟท์เข้าสู่ "ธนาคารซอฟท์แวร์ร่วมแรงและแบ่งปัน"

     จากแนวความคิดของผู้บริหารโปรซอฟท์ ที่อิงโมเดลมากจากธนาคารคนจน ของ มูฮัมหมัด ยูนุส ชาวบังคลาเทศผู้ก่อตั้งธนาคารคนจนเป็นคนแรกของโลก
    
    ทั้งนี้ผู้บริหารของโปรซอฟท์ได้มีความตั้งใจแล้วว่า ต้องการที่จะยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงาน ยกมาตรฐาน การครองชีพ ของพนักงานโปรซอฟท์ให้มีความกินดีอยู่ดี มีความมั่นคงในชีวิต สามารถทำงานแบบไม่มีความกังวล เมื่อได้ศึกษาโมเดลธนาคารคนจนของ มูฮัมหมัด ยูนุส ชาวบังคลาเทศ จึงได้เกิดโมเดล “ธนาคารซอฟท์แวร์ ร่วมแรงและแบ่งปัน”  ขึ้นเพื่อนำมาเป็นโมเดลในการบริหารโปรซอฟท์ต่อไปในอนาคต ด้วยความต้องการและความตั้งใจจากใจจริงของผู้บริหาร   โปรซอฟท์ และความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น โดยอิงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก ทำให้โมเดลนี้มีการ วิเคราะห์ และศึกษาอย่างละเอียด เพื่อให้พนักงานทุกคนได้ประโยชน์มากที่สุด และที่สำคัญองค์กรนั้นจะต้องสามารถอยู่ได้ 

    การประกอบธุรกิจ การบริหารของนักบริหารโดยทั่วไป เน้นย้ำในเรื่องของผลกำไรเป็นที่ตั้ง โดยอาจจะมองข้าม หรือละเลย ส่วนประกอบหลักที่ทำให้องค์กรนั้นสามารถขับเคลื่อนต่อไป ซึ่งนั้นก็คือ “คน” หรือ “พนักงาน” ของบริษัท นั้นเอง หลายๆบริษัทที่ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมในการจ่ายค่าจ้างแรงงานแก่พนักงาน หรือการให้สวัสดิการที่ไม่ได้คำนึงถึงพนักงานเป็นหลัก  ทำให้พนักงานเหล่านั้นไม่สามารถได้รับสิทธิและผลตอบแทนที่ควรจะได้รับ และแน่นอนผู้ที่ได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด นั้นก็คือผู้บริหาร แต่โปรซอฟท์เราให้ความสำคัญกับบุคลากรของบริษัทเป็นหลัก เราเน้นในการพัฒนาคน พัฒนาศักยภาพ และแน่นอนเราไม่ลืมและไม่ละเลยที่จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของพนักงานในองค์กรเป็นที่ตั้ง นอกเหนือจากผลกำไรที่ได้ ดังจะเห็นได้จากการจ่ายเงินเดือนและโบนัส ต้องมีความยุติธรรมและชัดเจน เรามุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับชิวิตความเป็นอยู่ของพนักงาน ด้วยสวัสดิการต่างๆ

 

    “ธนาคารซอฟท์แวร์ ร่วมแรงและแบ่งปัน” เป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของโปรซอฟท์ ในการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ ของ     ผู้บริหารไทยที่มีความกล้า และความเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวมขององค์กรอย่างเห็นเป็นรูปธรรม โมเดล “ธนาคารซอฟท์แวร์ ร่วมแรงและแบ่งปัน” นั้นให้โอกาสพนักงานได้ มีโอกาสที่จะซื้อหุ้นของบริษัท สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ มีสิทธิมีเสียงในการเสนอความคิดเห็น  ที่สำคัญคือการแบ่งผลกำไรให้กับพนักงานทุกๆคน โดยจะต้องไม่ลืม ที่จะทำประโยชน์คืนสู่สังคมด้วย โมเดลนี้ ถือว่าเป็นโมเดลในฝันที่พนักงานทุกๆคนอยากให้เป็นความจริงมากที่สุด  ที่สำคัญอีกประการ คือ โปรซอฟท์เน้นที่ความซื่อสัตย์ ยุติธรรม ชัดเจน และโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้  

     และขอเน้นย้ำว่า  “หากทุกคนร่วมมือกัน ความสำเร็จก็จะเป็นของเรา”


ดึงดูดคนเก่งๆเข้าร่วมเป็นสมาชิก  "ธนาคารซอฟท์แวร์ร่วมแรงและแบ่งปัน"

    โปรซอฟท์ยินดีให้พนักงานได้ทำในสิ่งที่เขารัก ได้ทำในสิ่งที่เขาทำ  เราอยากเห็นทุกคน ที่เดินทางมาทำงานร่วมกับเรา   ได้ทำงานตามที่เขาใฝ่ฝัน ถ้าทุกคนได้ทำงานตามที่ตนเองรักแล้วผลของงานจะดีมากๆ เราอยากเห็นคนโปรซอฟท์สร้าง      นวัตกรรมใหม่ๆออกมาให้ลูกค้าได้ใช้สินค้าที่ดีมีคุณภาพ  ด้วยแนวทางการบริหารรูปแบบใหม่เพื่อเข้าสู่ "ธนาคารซอฟท์แวร์ร่วมแรงและแบ่งปัน"รวมถึงสถานที่ตั้งสำนักงานที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ด้วยบรรยากาศที่สุดยอด อากาศดี อาหารดี สภาพแวดล้อมดี คนมีไมตรีที่ดีต่อกัน จะทำให้โปรซอฟท์ดึงดูดคนเก่งๆเข้ามาทำงานได้อย่างมากมาย


บทความโดย : คุณวิโรจน์  เย็นสวัสดิ์  |  Facebook
โพสต์เมื่อ :
2557-08-20
โดย :
 462
ผู้เข้าชม

ข่าวสารและกิจกรรม

ธุรกิจสำนักงานบัญชีในประเทศไทย ส่วนมากจัดทำบัญชีและภาษีโดยนำเอกสารประกอบการจัดทำบัญชีมาจากลูกค้ามาบันทึกบัญชี และจัดเก็บเอกสารไว้ที่สำนักงานบัญชีของตนเอง พร้อมทั้งบริการนำส่งภาษีสรรพากรทุกประเภทให้ลูกค้า จากที่ผมทำธุรกิจสำนักงานบัญชีมายาวนานกว่า 20 ปี ทำให้เห็นปัญหาต่างๆที่เหมือนๆกันแทบทุกสำนักงานทั่วประเทศไทย
เข้าสู่ปีมังกรผงาด “เอสเอ็มอี” ยังมีโจทย์หิน รอให้พิสูจน์ฝีมือ ช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวในทุกมิติ ไม่เว้นแต่ “บัญชีบริหาร”
การทำบัญชีของ SMEs ในบ้านเรานั้น กว่า 90 เปอร์เซ็นต์จะใช้บริการของสำนักงานบัญชี เพื่อช่วยยื่นภาษีให้กับรัฐและปิดงบการเงินเป็นรายปี เพื่อส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและ เป็นที่ทราบกันดีว่าตัวเลขในบัญชีชุดสรรพากรนั้นมักจะไม่ตรงกับความเป็นจริง
หน้าที่ของ สำนักงานบัญชียุคใหม่ ต้องทำหน้าที่เป็นอะไรให้ลูกค้า ได้ทั้ง พนักงานบัญชี สมุห์บัญชี และผู้จัดการบัญชีของลูกค้า

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์