จากเด็กบ้านนอกที่หัวใจไม่ยอมแพ้

จากเด็กบ้านนอกที่หัวใจไม่ยอมแพ้

 

 

จากเด็กบ้านนอกที่หัวใจไม่ยอมแพ้

      ผมเติบโตมาจากเด็กบ้านนอกที่ยากจนผมเป็นลูกชาวนาบ้านเกิดอยู่ที่บ้านห้วยค้อ อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น
ด้วยที่ผมได้สัมผัสความยากจนตั้งแต่เกิดทำให้ผมคิดว่าสักวันหนึ่งต้องมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ให้ได้พ่อและแม่ได้สอนอยู่เสมอว่า "พ่อและแม่ไม่มีทรัพย์สินเงินทองอะไรจะให้ได้นอกจากการศึกษาเพราะฉะนั้นถ้าอยากมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าก็ขอให้ตั้งใจเรียนนะลูก"คำสอนนี้ยังทำให้ผมได้จดจำมาจนทุกวันนี้แต่ผมก็ไม่สามารถสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตามที่ตนเองต้องการ   ได้ทำให้ผมต้องเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อเรียนต่อทีคณะบริหารธุรกิจ สาขาบัญชี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ตามคำแนะนำของ  พี่สาวเพราะได้รับคำบอกเล่าว่าเรียนสาขาบัญชีเมื่อจบมาแล้วจะหางานง่าย ไม่ต้องตกงาน


เริ่มทำงานบัญชีขณะที่ยังเรียนอยู่รามคำแหง

      ตอนที่เรียนบัญชี ผมก็ยังไม่ทราบว่าตนเองชอบอะไรอยากจะทำงานอะไรเพราะสมัยก่อนไม่มีข้อมูลข่าวสารไม่มีอินเตอร์เน็ตเหมือนทุกวันนี้ความก้าวหน้าในสายงานเป็นอย่างไรบ้าง จำได้ว่าตอนที่เรียนวิชาการวางรูประบบบัญชีได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่ปูนซิเมนต์ ผมได้ถามพนักงานปูนซิเมนต์ไทยว่าถ้าจบแล้วมีโอกาสทีจะได้ทำงานที่ปูนไหมครับคำตอบที่ผมได้รับคือ"ได้ครับแต่ที่นี่รับคนที่ได้เกรด 3.3 ขึ้นไป ส่วนใหญ่รับที่จบจากจุฬาครับ"ผมยอมรับความจริงของชีวิตว่าเด็กบ้านนอก ยากจน ส่วนใหญ่ขาดโอกาสเกือบจะทุกๆด้าน ขาดแม้จะได้รับคำแนะนำที่ดีๆตอนที่เป็นเด็ก ด้วยความยากจนทำให้ผมต้องทำงานหาเงินเรียนเพื่อช่วยเหลือทางบ้านในขณะที่เรียนรามปี 4

        
เริ่มต้นที่สำนักงานบัญชีและอยู่ในอาชีพของนักบัญชีเกือบสิบปี

       ผมได้มีโอกาสฝึกงานและได้ทำงานที่สำนักงานสหบัญชีกิจและกฎหมายแถวพระโขนงอยู่ประมาณ 2 ปี ทำให้ผมได้  เข้าใจการทำงานของสำนักงานบัญชีเป็นอย่างดี แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าการทำบัญชีจริงๆเขาทำงานอย่างไรเพราะการทำงาน      ที่สำนักงานบัญชีก็เพียงเอาเอกสารมาบันทึกบัญชีเพื่อปิดงบการเงินเท่านั้น

     ทำให้ผมได้ตัดสินใจออกหาประสบการณ์ในการวางระบบบัญชี การทำงานทางด้านบัญชี การเป็นที่ปรึกษาทางบัญชีและเปิดธุรกิจสำนักงานบัญชีในนามบริษัทสำนักงานเอกกิจการบัญชี จำกัดจนอายุ 29 ปีจึงตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจซอฟต์แวร์เมื่อ 
4 กันยายน 2538 ซึ่งเป็นวันจัดตั้งบริษัท โปรซอฟท์ คอมเทค จำกัดอย่างเป็นทางการ
 

   
บทความโดย : คุณวิโรจน์  เย็นสวัสดิ์  |  Facebook

โพสต์เมื่อ :
2557-08-20
โดย :
 2219
ผู้เข้าชม

ข่าวสารและกิจกรรม

ธุรกิจสำนักงานบัญชีในประเทศไทย ส่วนมากจัดทำบัญชีและภาษีโดยนำเอกสารประกอบการจัดทำบัญชีมาจากลูกค้ามาบันทึกบัญชี และจัดเก็บเอกสารไว้ที่สำนักงานบัญชีของตนเอง พร้อมทั้งบริการนำส่งภาษีสรรพากรทุกประเภทให้ลูกค้า จากที่ผมทำธุรกิจสำนักงานบัญชีมายาวนานกว่า 20 ปี ทำให้เห็นปัญหาต่างๆที่เหมือนๆกันแทบทุกสำนักงานทั่วประเทศไทย
เข้าสู่ปีมังกรผงาด “เอสเอ็มอี” ยังมีโจทย์หิน รอให้พิสูจน์ฝีมือ ช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวในทุกมิติ ไม่เว้นแต่ “บัญชีบริหาร”
การทำบัญชีของ SMEs ในบ้านเรานั้น กว่า 90 เปอร์เซ็นต์จะใช้บริการของสำนักงานบัญชี เพื่อช่วยยื่นภาษีให้กับรัฐและปิดงบการเงินเป็นรายปี เพื่อส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและ เป็นที่ทราบกันดีว่าตัวเลขในบัญชีชุดสรรพากรนั้นมักจะไม่ตรงกับความเป็นจริง
หน้าที่ของ สำนักงานบัญชียุคใหม่ ต้องทำหน้าที่เป็นอะไรให้ลูกค้า ได้ทั้ง พนักงานบัญชี สมุห์บัญชี และผู้จัดการบัญชีของลูกค้า

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์