คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนกระตุ้นการลงทุนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศให้มากขึ้น อันจะนำไปสู่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
นายจ้างทั้งหลายที่นำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายแต่ละเดือนของลูกจ้าง (ภงด.1) ต้องคำนวณภาษีกันใหม่ โดยที่เงินได้พึงประเมินที่ได้รับในปี พ.ศ. 2551 ของบุคคลธรรมดาได้รับการช่วยเหลือดังนี้
1. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 100,000 บาทเป็น 150,000 บาท
2. ลดหย่อนเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิต จาก 50,000 บาทเป็น 100,000 บาท
3. ลด หย่อนเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือเงินสมทบเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน รวมกันแล้ว จากเดิมไม่เกิน 300,000 บาท เป็นไม่เกิน 500,000 บาท
4. ลดหย่อนเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว จากไม่เกิน 300,000 บาท เป็นไม่เกิน 500,000 บาท
5. ลด หย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูคู่สมรส บิดา มารดา บุตรชอบด้วยกฎหมายหรือบุตรบุญธรรมของผู้มีเงินได้หรือคู่สมรส ซึ่งเป็นคนพิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้และมีบัตรประจำตัวคนพิการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 โดยให้หักได้ 30,000 บาท ต่อคนพิการ
นอกจากนี้ กิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือหากำไร ได้ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ จากเดิมที่กำหนดไว้อัตราร้อยละ 3.3 เป็นอัตราร้อยละ 0.11 สำหรับรายรับก่อนหักรายจ่ายใด ๆ จาก ทั้งนี้ เฉพาะการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กระทำภาย ใน 1 ปี นับจากวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 0.01 สำหรับกรณีสนับสนุนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด รอบบัญชีเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไปที่มีทุนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 150,000 บาท
ทั้งนี้ มาตรการภาษีที่นำเสนอ จะช่วยลดภาระภาษีอันเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ส่งเสริมให้เกิดการออมระยะยาวในประเทศมากขึ้น สนับสนุนการประกอบกิจการของวิสาหกิจชุมชนและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนกระตุ้นและเร่งรัดการลงทุนของภาคเอกชนให้สอดคล้องกับการส่งเสริมให้เกิดปีแห่งการลงทุน (Investment Year) อันจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวต่อไป
บทความโดย : www.ezyjob.com
ประกาศบทความโดย : http://www.tacthai.com