นักบัญชีต้องเป็นผู้นำ

นักบัญชีต้องเป็นผู้นำ

 

 

     วันนี้เข้าไปท่องเว็บฯเพื่อมองหาประเด็น ที่จะมาเล่าสู่กันฟัง เห็นบทความ ที่ว่า Accountants-Are the Natural Fit for Information Technology Leadership จาก : The CPA Software News เห็นว่าน่าสนใจดีเพราะเป็นการพูดถึงแนวโน้มที่นักบัญชีจะต้องปรับตัวสู่ Product line ใหม่ๆ ในการให้บริการนอกเหนือจากบริการด้านภาษีและตรวจสอบบัญชีที่มีการแข่งขันกันสูง ในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นข้อเสนอแนะแก่ผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ของ องค์กรว่า ให้เลือกนักบัญชีมาทำเป็นผู้คุมโครงการโดยทำหน้าที่ถ่วงดุลระหว่างผู้บริหาร กิจการและนักคอมพิวเตอร์ เพราะคู่นี้มักคุยกันแบบ คนละเรื่องเดียวกัน 

     บทความดังกล่าวตอกย้ำถึงบทบาทของ นักบัญชีว่าต้องออกมาเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี โดยบอกว่า อัตราการเติบโตของตลาดบริการด้านที่ปรึกษาเทคโนโลยีนั้นมีอยู่มหาศาล และเป็นโอกาสอันดีที่นักบัญชีทั้งหลายจะเปิดตลาดทางด้านนี้เพื่อหนีความกด ดันจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดของการบริการด้านภาษีและตรวจสอบบัญชี เพราะข้อมูลที่ถูกบันทึกลงบนระบบคอมพิวเตอร์นั้นโดยส่วนใหญ่เป็นข้อมูลด้าน บัญชีทั้งสิ้น 
  
     บทความนี้ยังบอกว่าการนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ไม่สามารถทดแทนการทำงานของนักบัญชีที่มีประสบการณ์ แต่ในทางตรงกันข้ามกลับจะทำให้ยิ่งต้องพึ่งพานักบัญชีเหล่านี้มากขึ้น ในการเลือกโปรแกรมบัญชีและวางระบบบัญชีนั้น กิจการโดยส่วนใหญ่มักจะไว้วางใจในการใช้บริการจากนักบัญชีภายนอก ในการคำปรึกษานั้น หมายรวมถึงการนำความเชี่ยวชาญมาช่วยวิเคราะห์ปัญหา และนำเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาเพื่อให้ผู้บริหารตัดสินใจซึ่งนักบัญชีจะทำ หน้าที่นี้ได้ดีกว่านักคอมพิวเตอร์ เพราะจะมุ่งเน้นแง่มุมทางด้านการจัดการมากกว่าด้านเทคโนโลยี เพราะแม้ว่าจะให้นักคอมพิวเตอร์ที่มีประสบการณ์ยาวนานมาให้คำปรึกษา ก็ไม่ง่ายนักที่จะเขาจะสามารถให้คำแนะนำได้ดีเกี่ยวกับการวางแผนเชิงกลยุทธ์ หรือการจัดการโครงการ 

     บทความตอนท้ายยังกล่าวด้วยว่ามุมมองของนักบัญชีในแง่ธุรกิจและตัว เลขของกำไร จะเป็นตัวถ่วงดุลที่ดีระหว่างผู้บริหารกับนักคอมพิวเตอร์ในการนำระบบ คอมพิวเตอร์มา พัฒนาองค์กร 

     ถึงแม้ว่าบทความข้างต้นเป็นการทำนายแนวโน้มการปรับตัวของนักบัญชี ในสหรัฐฯ ที่เขียนไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2000 แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่านักบัญชีบ้านเราจะต้องปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับ สหรัฐฯ ภายในไม่เกิน 3 ปีให้หลัง ก็แปลว่า แนวโน้มนั้นจะเกิดในบ้านเราอย่างช้าคือปลายปี 2003 อันที่จริงแนวโน้มนี้ก็ได้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว เพราะทุกๆ วันจะมีนักบัญชีโทร.มาปรึกษาขอคำแนะนำที่จะเริ่มก้าวสู่การให้บริการเกี่ยว กับการวางระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ ซึ่งจากการสังเกตพบว่าคนกลุ่มนี้จะเป็นพวกประสบความสำเร็จในการทำงานเป็น มนุษย์เงินเดือนและอยากเปลี่ยนความท้าทายของชีวิตมาสู่การเป็นที่ปรึกษา อิสระ หรือประกอบกิจการของตนเองด้านการวางระบบ บัญชีคอมพิวเตอร์ 

     ที่น่าแปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ความคิด การเป็นที่ปรึกษาด้านการวางระบบฯ จะไม่มีอยู่ในกลุ่มสำนักบัญชีที่ให้บริการด้านภาษีและสอบบัญชีมาเป็นเวลานาน เลยเดาว่า อาจจะเป็นเพราะการขาดความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ แต่เชื่อหรือไม่ ในที่สุดไม่มีใครวิ่งหนีแนวโน้มของโลกได้ มีอยู่อย่างเดียวถ้าไม่ปรับตัวก็จะต้องเจริญรอยตามไดโนเสาร์คือสูญพันธุ์ไป จากโลกนี้ หรือท่านว่าไม่จริง 



บทความโดย : www.accasa.com
ประกาศบทความโดย : 
 http://www.tacthai.com

 1797
ผู้เข้าชม

ข่าวสารและกิจกรรม

ธุรกิจสำนักงานบัญชีในประเทศไทย ส่วนมากจัดทำบัญชีและภาษีโดยนำเอกสารประกอบการจัดทำบัญชีมาจากลูกค้ามาบันทึกบัญชี และจัดเก็บเอกสารไว้ที่สำนักงานบัญชีของตนเอง พร้อมทั้งบริการนำส่งภาษีสรรพากรทุกประเภทให้ลูกค้า จากที่ผมทำธุรกิจสำนักงานบัญชีมายาวนานกว่า 20 ปี ทำให้เห็นปัญหาต่างๆที่เหมือนๆกันแทบทุกสำนักงานทั่วประเทศไทย
เข้าสู่ปีมังกรผงาด “เอสเอ็มอี” ยังมีโจทย์หิน รอให้พิสูจน์ฝีมือ ช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวในทุกมิติ ไม่เว้นแต่ “บัญชีบริหาร”
การทำบัญชีของ SMEs ในบ้านเรานั้น กว่า 90 เปอร์เซ็นต์จะใช้บริการของสำนักงานบัญชี เพื่อช่วยยื่นภาษีให้กับรัฐและปิดงบการเงินเป็นรายปี เพื่อส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและ เป็นที่ทราบกันดีว่าตัวเลขในบัญชีชุดสรรพากรนั้นมักจะไม่ตรงกับความเป็นจริง
หน้าที่ของ สำนักงานบัญชียุคใหม่ ต้องทำหน้าที่เป็นอะไรให้ลูกค้า ได้ทั้ง พนักงานบัญชี สมุห์บัญชี และผู้จัดการบัญชีของลูกค้า

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์